วันพุธที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2568

เรื่องเล่าแห่งตำนานหลวงพ่อเพ่ง วัดละหารใหญ่ พระเกจิผู้เรืองอิทธิฤทธิ์


ตำนานหลวงพ่อเพ่ง สาสโน วัดละหารใหญ่ พระเกจิอิทธิฤทธิ์คู่บุญหลวงปู่ทิม

วันนี้… เราจะพาทุกท่านย้อนเวลากลับไปสู่ดินแดนแห่งตำนานพระเกจิอาจารย์ผู้เรืองเวทเมืองระยอง …
เรื่องราวของ “หลวงพ่อเพ่ง สาสโน” แห่งวัดละหารใหญ่ พระผู้มีพลังจิตสูงส่ง เป็นสหธรรมมิกและสหายร่วมสมัยของ “หลวงปู่ทิม อิสริโก” วัดละหารไร่ และ “หลวงพ่อทาบ วัดกระบกขึ้นผึ้ง”

ในหมู่ชาวระยอง มีคำกล่าวที่ติดปากตราบจนทุกวันนี้ว่า…

“อิทธิฤทธิ์ หลวงพ่อเพ่ง
เมตตามหานิยม หลวงพ่อทาบ
อาคม หลวงปู่ทิม”

เพียงประโยคสั้น ๆ … ก็เพียงพอจะบอกเล่าเอกลักษณ์ และความยิ่งใหญ่ของพระเกจิทั้งสามรูป ที่ต่างก็โดดเด่นไปคนละด้าน


---

กำเนิดและเส้นทางแห่งตำนาน

หลวงพ่อเพ่ง สาสโน … เดิมนามสกุล “แก้วสว่าง” เกิดที่บ้านตาสิทธิ์ ตำบลหนองละลอก จังหวัดระยอง
ท่านเป็นผู้มีสติปัญญาเฉียบแหลม รักการศึกษา ทั้งภาษาไทย และภาษาขอมโบราณ

ก่อนบวช ท่านเคยรับราชการเป็นทหารเรือ และด้วยความเก่งฉลาด จึงได้มีโอกาสรับใช้ใกล้ชิด “เสด็จเตี่ย กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์” ผู้บัญชาการทหารเรือในสมัยนั้น

การใกล้ชิดเสด็จในกรม… นำพาหลวงพ่อเพ่งสู่เส้นทางแห่งวิชาอาคม เมื่อได้ติดตามเจ้านายไปฝากตัวเป็นศิษย์ “หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า” จังหวัดชัยนาท อริยสงฆ์ผู้เรืองเวทที่สุดองค์หนึ่งในสยาม

เมื่อพ้นราชการ ท่านจึงกลับบ้านเกิด บวชเป็นพระภิกษุ และมาจำพรรษาที่วัดละหารใหญ่ กระทั่งได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสตั้งแต่ พ.ศ. ๒๔๗๘ – ๒๕๐๑


---

อิทธิฤทธิ์ที่เล่าขาน

ชาวบ้านเล่าขานว่า … หลวงพ่อเพ่งเป็นพระผู้มีอำนาจจิตเฉียบขาด โดยเฉพาะทางคงกระพันชาตรี

มีเรื่องเล่าว่า…
ท่านเพียงเขียนอักขระขอมตัวเดียวลงบนแผ่นตะกั่ว แล้วให้ชาวบ้านนำไปทดลองยิงต่อหน้าธารกำนัล
กระสุนกลับยิงไม่ออก
จนผู้คนต่างซาบซึ้ง และเลื่อมใสในบารมีท่าน

อีกเรื่องเล่าหนึ่ง… วันนั้น ชาวบ้านใช้มีดผ่าไม้รวก หลวงพ่อเพ่งเดินผ่านมา เห็นเข้ากล่าวว่า
“ผ่าด้วยมีด มันช้า”
จากนั้น … ท่านใช้ “มือเปล่า” ผ่าไม้รวก ที่คมยิ่งกว่ามีดโกน ให้ชาวบ้านเห็นต่อหน้า ตำนานนี้… สั่นสะเทือนศรัทธาไปทั่ว


---

ศรัทธาและความสัมพันธ์กับเกจิร่วมสมัย

ในยุคนั้น…
หลวงพ่อทิม ยังเป็นเพียงพระหมอยาที่ชาวบ้านเคารพในด้านการรักษาโรคภัย
หลวงพ่อทาบ โดดเด่นในทางเมตตามหานิยม
และหลวงพ่อเพ่ง … คือผู้คนต่างพึ่งพาในทางคงกระพัน ยิงไม่ออก ฟันไม่เข้า

แต่ทั้งสามต่างรู้แก่ใจดีว่า…
ไม่ว่าด้านใด จะเมตตา คงกระพัน หรืออาคม …
หลวงปู่ทิมไม่เป็นรองผู้ใดเลย
เพียงแต่ท่านสำรวม ถ่อมตน และมิได้แสดงออกเช่นสหธรรมมิกทั้งสอง

ก่อนละสังขาร หลวงพ่อเพ่งได้สั่งเสียไว้ว่า…
“หากเผาศพเราแล้วไฟไม่ไหม้… ให้ไปนิมนต์หลวงพ่อทิมมาช่วยเผา”
และก็เป็นไปตามคำสั่งเสีย ศพท่านไม่ไหม้จริง ๆ จนต้องอาราธนาหลวงปู่ทิมมาแสดงฤทธิ์ช่วยเผา


---

ครูบาอาจารย์ และการสืบวิชา

พระอาจารย์สิน เจ้าอาวาสวัดละหารใหญ่ ซึ่งเป็นศิษย์เอก เล่าว่า …
หลวงพ่อเพ่งเป็นพระผู้มีสมองไว เก่งเลข คำนวณ และแตกฉานทางอักขระขอม
เมื่อครั้งเป็นทหาร จึงได้เลือกให้รับใช้ใกล้ชิดกรมหลวงชุมพรฯ

เมื่อบวชเป็นพระ… ท่านยังทำหน้าที่ครู สอนทั้งพระเณรและลูกศิษย์ในละแวกบ้าน ให้รู้หนังสือและธรรมะ

และด้วยบารมีของท่าน … แม้แต่เจ้าขุนมูลนายจากกรุงเทพฯ ก็มักจะมาพำนักที่วัดละหารใหญ่ เพื่อกราบนมัสการอยู่เสมอ

ตั้งแต่นั้นมา... ไม่ว่าชาวบ้านใกล้ไกล ต่างก็มาขอ “ของดี” จากท่านมิได้ขาด

เล่ากันว่า... บางครั้งในขณะที่ท่านกำลังสอนหนังสือเด็ก ๆ อยู่ ก็จะมีคนมานั่งรอเพื่อขอให้ท่านลงตะกรุด
วัสดุที่นำมาก็แล้วแต่จะหาได้ — ทั้งแผ่นทองเหลือง แผ่นหม้ออลูมิเนียม หรือแม้แต่เศษโลหะจากเครื่องครัวที่ชำรุด

หลวงพ่อเพ่ง... จะหยิบแผ่นโลหะนั้นขึ้นมา แล้วจารลงเพียงตัวเดียว — “ตัวเฑาะว์มหาพรหม” หรือที่เรียกกันว่า “เฑาะว์ใหญ่”
จากนั้นท่านก็เพียงแค่ม้วนขึ้นเป็นตะกรุด... ยกขึ้นเหนือศีรษะ... แล้วส่งคืนให้ผู้ศรัทธา
โดยแทบไม่เห็นท่านปลุกเสกใด ๆ

แรก ๆ ชาวบ้านก็ยังสงสัย...
จึงลองเอาตะกรุดวางบนตอไม้แล้วทดลองยิง...
ผลปรากฏว่า ปืนด้าน! นัดแรกยิงไม่ออก... นัดที่สองออกบ้างไม่ออกบ้าง
เรื่องนี้ทำให้ผู้คนเริ่มเชื่อมั่นในพุทธาคมของท่าน

และที่น่าอัศจรรย์ยิ่งไปกว่านั้น... หากบางคนไม่มีโลหะมา หลวงพ่อเพ่งก็จะบอกว่า...
“เอาซองห่อยากาแรตมานี่ก็ได้...”

เพียงแค่กระดาษฟอยล์ห่อบุหรี่บาง ๆ... ก็กลายเป็น “ตะกรุด” อันศักดิ์สิทธิ์ไปโดยพลัน

นี่เอง... คือเหตุผลว่าทำไมชาวบ้านถึงหวงแหน “ตะกรุดหลวงพ่อเพ่ง” ยิ่งกว่าของใคร ๆ


ปาฏิหาริย์น่าอัศจรรย์

อีกเรื่องเล่าที่ทำให้คนทั้งวัดตื่นตะลึง...
คือครั้งหนึ่งเมื่อมีงานใหญ่ที่วัดละหารใหญ่

ชาวบ้านต่างช่วยกันล้างถ้วยชามที่สระน้ำหน้าวัด ทุกคนต่างล้างกันทีละใบ ๆ จนดูเชื่องช้า

หลวงพ่อเพ่งเดินผ่านมาเห็นเข้าจึงกล่าวว่า...
“ล้างแบบนี้ช้าไป... เอาใส่แข่งแล้วเขย่าเลย...”

ชาวบ้านก็ทำตามอย่างไม่คิดอะไร
แต่ปรากฏว่า... แม้จะเขย่าแรงเพียงใด ถ้วยชามแก้วหรือกระเบื้องก็ไม่แตกแม้แต่ใบเดียว เป็นเหตุการณ์ที่ทุกคนยังคงเล่าขานถึงความอัศจรรย์มาจนถึงทุกวันนี้


---

หลวงพ่อสาคร วัดหนองกรับ

ตำนานยังเล่าต่อว่า... หลวงพ่อสาครแห่งวัดหนองกรับ ก็เคยได้ยินกิตติศัพท์ของหลวงพ่อเพ่ง

ครั้งหนึ่ง ท่านได้นำผ้าเช็ดหน้าไปฝากให้หลวงพ่อเพ่งลงคาถาอาคม
แต่กลับประหลาดใจเมื่อเห็นว่าหลวงพ่อเพ่ง เพียงเขียนยันต์เฑาะว์ตัวเดียวลงไป...
เป่าเบา ๆ... แล้วบอกว่า “เสร็จแล้ว เอาไปได้เลย”

ตอนนั้นหลวงพ่อสาครยังแอบคิดในใจว่า...
“นี่มันเร็วเกินไปหรือเปล่า? พระอาจารย์ท่านอื่น ๆ ต้องเสกกันเป็นวัน บางองค์เสกเป็นเจ็ดวันเต็ม ๆ...
แต่หลวงพ่อเพ่งทำเพียงอึดใจเดียว?”

แต่เมื่อท่านนำผ้าเช็ดหน้ากลับไปทดลองด้วยตนเอง...
ผลกลับตรงกันข้ามกับที่คิด — ปืนยิงไม่ออก กรีดไม่เข้า

แม้เพียงเศษผ้าธรรมดา... ก็กลายเป็นเครื่องคุ้มครองที่แสดงถึงอำนาจจิตอันยิ่งใหญ่ของหลวงพ่อเพ่ง


วาระสุดท้าย

ปี พ.ศ. ๒๕๐๒... หลวงพ่อเพ่ง สาสโน ได้ละสังขารลง

แต่แม้ร่างกายของท่านจะจากไป... ปาฏิหาริย์ก็ยังคงติดตาม

เล่ากันว่า... เมื่อทำพิธีประชุมเพลิง ร่างกายของท่านกลับไม่ไหม้
แม้จะเร่งไฟเพียงใด ก็เผาไม่หมด...

จนต้องนิมนต์ หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ มาประกอบพิธีด้วยน้ำพระพุทธมนต์
จึงสามารถเผาได้สำเร็จ

เป็นเครื่องยืนยันว่า “พลังจิต” ของหลวงพ่อเพ่ง ยังคงดำรงอยู่จนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต


วัตถุมงคล

แม้ท่านจะมิได้สร้างพระเครื่องไว้มากนัก แต่ก็ยังมีวัตถุมงคลสำคัญที่ผู้ศรัทธาตามหา คือ

1. เหรียญหลวงพ่อเพ่ง พิมพ์หลังยันต์ใหญ่ วัดละหารใหญ่ ปี พ.ศ. ๒๕๑๒ (ปลุกเสกโดยหลวงปู่ทิม)

2. เหรียญหลวงพ่อเพ่ง พิมพ์หลังยันต์เล็ก ปีเดียวกัน (ปลุกเสกโดยหลวงปู่ทิม)

3. เหรียญหลวงพ่อเพ่ง พิมพ์หลังยันต์เล็กสร้างเสริม ปี พ.ศ. ๒๕๒๐ (ปลุกเสกโดยหลวงพ่อชื่น)


หลวงพ่อเพ่ง สาสโน วัดละหารใหญ่...
พระเกจิผู้มีนามประดับอยู่ในประวัติศาสตร์ของเมืองระยอง
อาจารย์ผู้เรืองอิทธิฤทธิ์ แกร่งกล้าในพลังจิต และเป็นที่เคารพศรัทธาของชาวบ้าน

ตะกรุดของท่าน... ยังเป็นที่กล่าวขาน
ปาฏิหาริย์ของท่าน... ยังเป็นที่ศรัทธา
และชื่อของท่าน... จะยังคงอยู่คู่ประวัติศาสตร์แห่งพระเกจิอาจารย์ไทยตลอดไป

ขอบคุณทุกท่านที่รับฟังตำนานเรื่องราวของ หลวงพ่อเพ่ง วัดละหารใหญ่ ในวันนี้…
หากชอบเรื่องเล่าเช่นนี้… ขอเชิญกดไลค์ กดแชร์ และกดติดตาม… เพื่อเป็นกำลังใจในการสืบสานเรื่องราวแห่งศรัทธาและตำนานพระเกจิไทย…
ขอให้ทุกท่านพบแต่ความร่มเย็น ความสงบ และความสว่างไสวในชีวิตครับ…