วันพฤหัสบดีที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2568

ศิลาจารึกแห่งนครปฐม | การชุมนุมพระเกจิผู้เรืองวิชา

ศิลาจารึกแห่งนครปฐม: การชุมนุมพระเกจิผู้เรืองวิชา"

ในประวัติศาสตร์ที่จารึกไว้ในพงศาวดาร คือวันเดือนปีที่เปลี่ยนผ่านยุคสมัย แต่ในประวัติศาสตร์ที่ซ่อนเร้นในศรัทธา คือเรื่องเล่าของพลังอำนาจที่มองไม่เห็น

ในปี พ.ศ. 2452 ณ จังหวัดนครปฐม ได้มีการจัดงานขึ้นในวัดพระปฐมเจดีย์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อทำการทดสอบพระสงฆ์
ในการจัดงานดังกล่าว ได้มีการนำพระเกจิอาจารย์มารวมตัวกันจำนวนหนึ่ง เพื่อเข้าร่วมการทดสอบในหัวข้อที่เกี่ยวข้องกับการฝึกฝนทางจิต โดยมีวิธีการทดสอบอย่างหนึ่งซึ่งใช้อุปกรณ์ที่ทำจากไม้ ซึ่งได้แก่ กบไสไม้ การทดสอบ กบไสไม้นั้น มีวิธีการดำเนินการโดยการนำกบไสไม้มาวางบนกระดานไม้แบน จากนั้นให้พระสงฆ์ที่เข้าร่วมการทดสอบใช้ความสามารถทางจิตควบคุม กบไสไม้ ดังกล่าว


นั่นคือการชุมนุมครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์พุทธศาสนา สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส ทรงมีพระดำริสำคัญ ทรงเรียกประชุมพระเกจิผู้เปี่ยมด้วยตบะ และพลังจิตจากทั่วสยามประเทศ สู่เมืองนครปฐม ดินแดนที่เชื่อกันว่าเป็นประตูสู่ความศักดิ์สิทธิ์ตั้งแต่ครั้งพุทธกาล


 ในยุคที่วิทยาศาสตร์กำลังรุ่งเรือง ความเชื่อในพลังเหนือธรรมชาติก็ถูกท้าทาย พระดำริของสมเด็จพระสังฆราชจึงมิใช่เพียงแค่การสืบทอด แต่คือการพิสูจน์ "ของจริง" เพื่อค้ำจุนศรัทธาแห่งมหาชน และคัดเลือกสุดยอดพระเกจิอาจารย์ผู้เปี่ยมด้วยวิชชาและวิปัสสนากัมมัฏฐานเพื่อสืบทอดพุทธศาสนาให้คงอยู่คู่แผ่นดิน

บรรยากาศในวัดพระปฐมเจดีย์ในวันนั้นพระสงฆ์นับร้อยรูปนั่งสงบอยู่ในลานวัด ขณะที่ฉากหน้ามีพระเกจิผู้ใหญ่กำลังเตรียมการทดสอบอย่างเคร่งขรึม

พิธีการเริ่มต้นขึ้นอย่างเงียบสงัด เสียงสวดมนต์ดังแว่วมาเป็นระยะ การทดสอบที่ถูกกล่าวขานเป็นตำนานคือ "กบไสไม้" วัตถุธรรมดาที่ต้องอาศัยพลังจิตที่เหนือโลกเพื่อขับเคลื่อนมัน

กบไสไม้มะขาม อันนั้นไม่ใช่แค่ชิ้นไม้ธรรมดา แต่คือตัวแทนแห่งพลังอำนาจที่บริสุทธิ์ พระเกจิแต่ละรูปต่างนั่งลงตรงหน้า ใช้พลังจิตเพ่งกสิณ แต่กบไสไม้กลับไม่ขยับ หลายชั่วโมง ผ่านไปอย่างเชื่องช้า พลังตบะจากเหล่าพระเกจิแทบจะสัมผัสได้ถึงความกดดันที่แผ่ซ่านไปทั่วลานพิธี

ทันใดนั้น กบไสไม้ตัวนั้น ก็เริ่มสั่นสะท้าน… เคลื่อนที่ไปข้างหน้าอย่างช้า ๆ… จากพลังจิตที่บริสุทธิ์ของพระเกจิผู้มีตบะแก่กล้า

แต่สิ่งที่เหนือความคาดหมายคือ เมื่อพระเกจิบางรูปสามารถบังคับให้กบไสไม้ถอยหลังได้ ปรากฏการณ์นี้ไม่ใช่แค่การแสดงพลังจิต แต่คือการยืนยันว่าพลังจิตของพวกท่านก้าวข้ามขีดจำกัด แห่งธรรมชาติไปแล้ว เป็นการพิสูจน์ให้เห็นว่าพลังจิตสามารถขับเคลื่อนสรรพสิ่งได้ ในทิศทางที่เหนือสามัญสำนึก

การทดสอบ…ดำเนินไปถึง สามวันสามคืน
พระเกจิอาจารย์ส่วนใหญ่…สามารถบังคับกบให้วิ่งไปข้างหน้าได้ แต่กลับบังคับให้วิ่งกลับ…ไม่ได้

พระเกจิอาจารย์ที่เข้าร่วมพิธีในวันนั้นมีอยู่หลายรูป เมื่อสิ้นสุดการทดสอบ ได้มีการประกาศว่ามีพระเกจิอาจารย์จำนวนหนึ่งที่ผ่านการทดสอบ

มีเพียงพระเกจิอาจารย์ สิบรูปเท่านั้น
ที่สามารถบังคับกบไสไม้…ให้วิ่งไป–กลับได้สำเร็จ พวกท่าน…จึงได้รับการยกย่อง…ว่าเป็น สิบสุดยอดพระเกจิแห่งสยาม อย่างแท้จริง ซึ่งจนถึงปัจจุบัน…ก็ยังยากจะหาใครมาทัดเทียม

สิบสุดยอดพระเกจิแห่งสยาม ได้แก่…
1. หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว จ.นครปฐม
2. หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า จ.ชัยนาท
3. หลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติการาม จ.พระนครศรีอยุธยา
4. หลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง กรุงเทพมหานคร
5. หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน จ.พิจิตร
6. หลวงพ่อทา วัดพะเนียงแตก จ.นครปฐม
7. หลวงพ่อทอง วัดคีรีนาถบรรพต (เขากบ) จ.นครสวรรค์
8. หลวงพ่อปาน วัดคลองด่าน จ.สมุทรปราการ
9. หลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว จ.กาญจนบุรี
10. หลวงพ่อจอน วัดดอนรวบ จ.ชุมพร

การทดสอบกบไสไม้ในวันนั้น คือเรื่องเล่าที่กลายเป็นตำนานสืบทอดมาถึงทุกวันนี้ แต่แก่นแท้ของเหตุการณ์มิได้อยู่ที่อิทธิปาฏิหาริย์ หากแต่อยู่ที่ศรัทธาอันมั่นคง และการแสวงหาความจริงที่ซ่อนเร้นอยู่เบื้องหลังพลังจิต ที่ยังคงเป็นปริศนาแก่ผู้คนตลอดมา

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น