แดนดินใดไม่แม้นแดนลานลั่นทม
ดุจดั่งสวรรค์แดนพรหม
สวยสุดถมคำชมได้... (ฮัม) ...
ทิวเขียวลิ่วไกล เพลินมองไป
เสียงลมไกวกิ่งไหวดังซู่
ทิ้งขั้วร่อนปลิว ลั่นทมพลิ้วโรยร่วงพรู
แม้นดั่งพรมลาดปู
ดุจทางสู่สุดสวรรค์เทวัญ
ลมรำเพยความหอมชวนดอมลั่นทม
สูดกลิ่นถวิลเชยชม
แสนสุขสมอารมณ์มั่น... (ฮัม) ...
ใจหวนตื้นตัน เกินจำนรรจ์
เพ้อรำพันว่าหอมใดเท่า
หอมชื่นลั่นทม เมื่อลมพลิ้วมาเบาๆ
ล้างสิ่งตรมอกเราให้คลายเศร้า
ที่คอยเผาโซรมใจ
ตำนานดอกลั่นทม( ดอกจำปาขาว)
ดอกจำปาดอกไม้ประจำถิ่นภาคอีสานและดอกไม้ประจำชาติลาว
เป็นต้นไม้ที่เจ้าฟ้างุ้ม(แห่งล้านช้าง)ทรงโปรด นั้นคนลาวเรียกกันว่า ต้นจำปาขาว
ตั้งแต่ยุคของเจ้าฟ้างุ้มเป็นต้นมา
ต้นจำปาขาวนี้ได้รับการยกย่องให้เป็นต้นไม้ประจำชาติลาว ส่วนต้นไม้ที่คนไทยเรียก
ต้นจำปา (Michelia Champaca Linn
) นั้น คนลาวเขาเรียกว่าต้นจำปาแดง ต้นจำปาขาวของลาวนี้
คนไทยเรียกว่าต้นลั่นทม (Plumeria acutifolia Poir) เป็นไม้ในตระกูล
Apocynaceae ไม้ชนิดนี้เป็นไม้ที่นำมาจากประเทศแม็กซิโก
และกลุ่มประเทศละตินอเมริกา ในอดีตได้มีการนำไม้จำปาขาว เข้ามาปลูกจากหลายเส้นทาง
เส้นทางสายแรกได้มีการนำจำปาขาวเข้ามาคือ การเอาเข้ามาผ่านอินเดีย นำเข้ามาปลูกตามวัดวาอาราม จะเห็นว่าชื่อทั่วไปของไม้ชนิดนี้ฝรั่งเรียกว่า Pagoda Tree หรือ Temple Tree ขอมโบราณมีความผูกพันกับไม้ชนิดนี้มาก จึงเชื่อว่าน่าจะเป็นจุดที่มีการกระจายออกไปสู่พื้นที่อื่นๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมทั้งลาวด้วย เพราะ มเหสีของเจ้าฟ้างุ้มนั้น เป็นธิดาของราชวงศ์นครวัต และผู้นำไปปลูกในลาวคือเจ้าฟ้างุ้มนั่นเอง
ต้นจำปาขาวนี้เป็นลั่นทมดอกขาว คนอีสานก็เรียกจำปาขาว คนเหนือเรียกว่า จำปาลาว คนใต้เรียกจำปาขอม เขมรเรียกจำไป หรือจำปาซอ คนมาเลย์เรียกบุหงา กัมโพซา คนเกาะชวาเรียกกัมโพชา พิจรณาจากชื่อที่เรียกกันจะเห็นว่ามีการยอมรับว่า ต้นลั่นทมนี้มาจากเขมร และนำเข้ามาโดยชาวอินเดีย
เส้นทางสายที่สองคือ การนำเอาจำปาขาวเข้ามาจากละตินอเมริกา โดยทหารสเปญ และนำไปปลูกที่เกาะฟิลิปปินส์ คนไทยทางภาคใต้ได้นำสายพันธุ์นี้เข้ามาในประเทศไทยพร้อมๆ กับการนำเข้าต้นกระถินบ้าน ในการปลูกของสเปน จะปลูกต้นจำปาขาวเป็นไม้ประดับและเป็นพืชสมุนไพร เพราะใช้ปรุงเป็นยารักษาโรคลำไส้พิการของม้า
ขณะที่กระถินบ้านำเข้ามาเพื่อเป็นอาหารของม้าในกองทัพของสเปนในฟิลิปปินส์
ไม้จำปาขาวเป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็ก ลำต้นมีเปลือกเรียบ มีสีเขียวอมเทา
แตกกิ่งมากแต่เปราะ เมื่อกิ่งหักจะมีน้ำยางสีขาวไหลออกมา ใบเดี่ยวเป็นรูปหัวหอก
ปลายใบแหลม ใบหนามีสีเขียวเข้ม ดอกสีขาวออกเป็นช่อ กลางดอกมีสีเหลือง ผลมีฝักยาว
เมล็ดมีปีก
ไม้จำปาขาวนี้เข้ายาได้หลายส่วน อาทิ
ใบใช้รักษาโรคหืด คนลาวจึงนิยมเอาใบมาอบกรอบแล้วกินเป็นยา ดอกจำปาขาวใช้ทำธูป หรือ
ผสมกับพลูใช้เป็นยาแก้ไอ ยางจากลำต้นใช้เป็นยาถ่าย หรือรักษาโรคไขข้ออักเสบ จำปาขาวเป็นไม้ที่มีความผูกพันกับคนหลายชนชาติ
คนลาวปลูกจำปาขาวไว้ตามรั้วบ้านเพื่อสะดวกในการเก็บดอก
คนลาวนิยมนำดอกจำปาขาวมาลอยในน้ำหอม (น้ำอบ) เพื่อใช้ในพิธีรดน้ำดำหัว
และใช้สรงน้ำพระในวันสงกรานต์โดยจะมีการทำสะพานที่ตกแต่งด้วยพญานาค
ส่วนลำตัวของพญานาคนี้จะมีการเซาะร่องตรงกลางเพื่อให้ชาวบ้านได้เทน้ำที่แช่ดอกจำปาขาวลงไป
น้ำมงคลนี้จะไหลไปตามรางไม้ และสรงพระพุทธรูป จากองค์พระพุทธรูปน้ำมงคลนี้จะไหลต่อลงไปสู่ภาชนะเก็บน้ำคนลาวส่วนใหญ่จะตักน้ำนี้เพื่อเอากลับไปบ้านเรือนของตนเอง
บางคนก็เอาไปอาบน้ำเพื่อเป็นมงคล บางคนก็เอาไปลูบไล้พอเป็นพิธี นอกจากนี้คนลาวยังนิยมเอาดอกจำปาขาวมาประดับตกแต่งให้สวยงามในเครื่องบายศรีสู่ขวัญ
คนไทยปลูกจำปาขาว หรือ ลั่นทมขาว หรือ ดอกลีลาวดี ไว้ตามวัดวาอาราม และสุสานเพื่อเป็นเครื่องหมายของการแสดงถึงความอาลัยแก่คนที่ตายแล้ว เช่นเดียวกับคนชวา เขาจะเอาดอกจำปาขาวมาลอยน้ำเพื่อใช้ในพิธีอาบน้ำผู้ล่วงลับ
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น