วันอังคารที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

ตำนาน ดอกลั่นทม

 

      


 

แดนดินใดไม่แม้นแดนลานลั่นทม
ดุจดั่งสวรรค์แดนพรหม
สวยสุดถมคำชมได้... (ฮัม) ...
ทิวเขียวลิ่วไกล เพลินมองไป


         เสียงลมไกวกิ่งไหวดังซู่
ทิ้งขั้วร่อนปลิว ลั่นทมพลิ้วโรยร่วงพรู
แม้นดั่งพรมลาดปู
ดุจทางสู่สุดสวรรค์เทวัญ

 

ลมรำเพยความหอมชวนดอมลั่นทม
สูดกลิ่นถวิลเชยชม
แสนสุขสมอารมณ์มั่น... (ฮัม) ...
ใจหวนตื้นตัน เกินจำนรรจ์


                   เพ้อรำพันว่าหอมใดเท่า
หอมชื่นลั่นทม เมื่อลมพลิ้วมาเบาๆ
ล้างสิ่งตรมอกเราให้คลายเศร้า
ที่คอยเผาโซรมใจ

 

ตำนานดอกลั่นทม( ดอกจำปาขาว)

ดอกจำปาดอกไม้ประจำถิ่นภาคอีสานและดอกไม้ประจำชาติลาว เป็นต้นไม้ที่เจ้าฟ้างุ้ม(แห่งล้านช้าง)ทรงโปรด นั้นคนลาวเรียกกันว่า ต้นจำปาขาว ตั้งแต่ยุคของเจ้าฟ้างุ้มเป็นต้นมา ต้นจำปาขาวนี้ได้รับการยกย่องให้เป็นต้นไม้ประจำชาติลาว ส่วนต้นไม้ที่คนไทยเรียก ต้นจำปา (Michelia Champaca Linn ) นั้น คนลาวเขาเรียกว่าต้นจำปาแดง ต้นจำปาขาวของลาวนี้ คนไทยเรียกว่าต้นลั่นทม (Plumeria acutifolia Poir) เป็นไม้ในตระกูล Apocynaceae ไม้ชนิดนี้เป็นไม้ที่นำมาจากประเทศแม็กซิโก และกลุ่มประเทศละตินอเมริกา ในอดีตได้มีการนำไม้จำปาขาว เข้ามาปลูกจากหลายเส้นทาง 


เส้นทางสายแรกได้มีการนำจำปาขาวเข้ามาคือ การเอาเข้ามาผ่านอินเดีย นำเข้ามาปลูกตามวัดวาอาราม จะเห็นว่าชื่อทั่วไปของไม้ชนิดนี้ฝรั่งเรียกว่า Pagoda Tree หรือ Temple Tree ขอมโบราณมีความผูกพันกับไม้ชนิดนี้มาก จึงเชื่อว่าน่าจะเป็นจุดที่มีการกระจายออกไปสู่พื้นที่อื่นๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมทั้งลาวด้วย เพราะ มเหสีของเจ้าฟ้างุ้มนั้น เป็นธิดาของราชวงศ์นครวัต และผู้นำไปปลูกในลาวคือเจ้าฟ้างุ้มนั่นเอง 

ต้นจำปาขาวนี้เป็นลั่นทมดอกขาว คนอีสานก็เรียกจำปาขาว คนเหนือเรียกว่า จำปาลาว คนใต้เรียกจำปาขอม เขมรเรียกจำไป หรือจำปาซอ คนมาเลย์เรียกบุหงา กัมโพซา คนเกาะชวาเรียกกัมโพชา พิจรณาจากชื่อที่เรียกกันจะเห็นว่ามีการยอมรับว่า ต้นลั่นทมนี้มาจากเขมร และนำเข้ามาโดยชาวอินเดีย 

เส้นทางสายที่สองคือ การนำเอาจำปาขาวเข้ามาจากละตินอเมริกา โดยทหารสเปญ และนำไปปลูกที่เกาะฟิลิปปินส์ คนไทยทางภาคใต้ได้นำสายพันธุ์นี้เข้ามาในประเทศไทยพร้อมๆ กับการนำเข้าต้นกระถินบ้าน ในการปลูกของสเปน จะปลูกต้นจำปาขาวเป็นไม้ประดับและเป็นพืชสมุนไพร เพราะใช้ปรุงเป็นยารักษาโรคลำไส้พิการของม้า

ขณะที่กระถินบ้านำเข้ามาเพื่อเป็นอาหารของม้าในกองทัพของสเปนในฟิลิปปินส์ 
ไม้จำปาขาวเป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็ก ลำต้นมีเปลือกเรียบ มีสีเขียวอมเทา แตกกิ่งมากแต่เปราะ เมื่อกิ่งหักจะมีน้ำยางสีขาวไหลออกมา ใบเดี่ยวเป็นรูปหัวหอก ปลายใบแหลม ใบหนามีสีเขียวเข้ม ดอกสีขาวออกเป็นช่อ กลางดอกมีสีเหลือง ผลมีฝักยาว เมล็ดมีปีก 


ไม้จำปาขาวนี้เข้ายาได้หลายส่วน อาทิ ใบใช้รักษาโรคหืด คนลาวจึงนิยมเอาใบมาอบกรอบแล้วกินเป็นยา ดอกจำปาขาวใช้ทำธูป หรือ ผสมกับพลูใช้เป็นยาแก้ไอ ยางจากลำต้นใช้เป็นยาถ่าย หรือรักษาโรคไขข้ออักเสบ จำปาขาวเป็นไม้ที่มีความผูกพันกับคนหลายชนชาติ คนลาวปลูกจำปาขาวไว้ตามรั้วบ้านเพื่อสะดวกในการเก็บดอก คนลาวนิยมนำดอกจำปาขาวมาลอยในน้ำหอม (น้ำอบ) เพื่อใช้ในพิธีรดน้ำดำหัว และใช้สรงน้ำพระในวันสงกรานต์โดยจะมีการทำสะพานที่ตกแต่งด้วยพญานาค ส่วนลำตัวของพญานาคนี้จะมีการเซาะร่องตรงกลางเพื่อให้ชาวบ้านได้เทน้ำที่แช่ดอกจำปาขาวลงไป น้ำมงคลนี้จะไหลไปตามรางไม้ และสรงพระพุทธรูป จากองค์พระพุทธรูปน้ำมงคลนี้จะไหลต่อลงไปสู่ภาชนะเก็บน้ำคนลาวส่วนใหญ่จะตักน้ำนี้เพื่อเอากลับไปบ้านเรือนของตนเอง บางคนก็เอาไปอาบน้ำเพื่อเป็นมงคล บางคนก็เอาไปลูบไล้พอเป็นพิธี  นอกจากนี้คนลาวยังนิยมเอาดอกจำปาขาวมาประดับตกแต่งให้สวยงามในเครื่องบายศรีสู่ขวัญ 

        คนไทยปลูกจำปาขาว หรือ ลั่นทมขาว หรือ ดอกลีลาวดี ไว้ตามวัดวาอาราม และสุสานเพื่อเป็นเครื่องหมายของการแสดงถึงความอาลัยแก่คนที่ตายแล้ว เช่นเดียวกับคนชวา เขาจะเอาดอกจำปาขาวมาลอยน้ำเพื่อใช้ในพิธีอาบน้ำผู้ล่วงลับ


0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น